ป้ายจำนวนหลายชนิดอาจจะไม่จำเป็นต้องมีการสะท้อนแสงในตัว เช่น ป้ายชื่อเครื่องจักร ป้ายชื่อห้องประชุม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องให้มองเห็นได้ในที่มืด แต่ยังมีป้ายอีกหลายชนิดที่จำเป็นต้องมองเห็นได้ดีในที่มืดเมื่อมีแสงส่องมาถึง ป้ายเหล่านี้ก็เช่นป้ายสัญญลักษณ์ต่างๆ บนท้องถนน ป้ายบอกทิศทางการขับรถ ซึ่งต้องสามารถมองสะท้อนแสงให้มองเห็นได้
เมื่อพูดถึงการสะท้อนแสง จะมีการสะท้อนหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นจริง และมีลักษณะการสะท้อนที่ทำให้เรามองเห็นต่างกัน จากภาพด้านบนจะเห็นว่าการสะท้อนแสงถูกแบ่งออกเป็นสามแบบหลักคือ
- การสะท้อนแบบกระจาย (diffuse reflection) เมื่อแสงกระทบกับผิววัสดุจะเกิดการสะท้อนไปในทุกทิศทาง บางส่วนของแสงก็จะสะท้อนกลับไปยังแหล่งกำเนิดของแสงที่ส่องกระทบ ซึ่งมักเป็นตำแหน่งของผู้สังเกตด้วย แต่ก็เป็นปริมาณน้อยบางส่วนเท่านั้น
- การสะท้อนแบบกระจก (mirror reflection) เป็นการสะท้อนที่เกิดขึ้นบนวัสดุผิวมันวาว แสงจากแหล่งกำเนิดจะสะท้อนออกไปเลยโดยแทบไม่มีส่วนของแสงสะท้อนกลับไปในทิศทางของแหล่งกำเนิดแสง (และผู้สังเกต ยกเว้นเมื่อแสงส่องลงตรงๆ เป็นมุมฉากกับผิววัสดุ ซึ่งจะมีการสะท้อนกลับไปรุนแรงมากแต่ก็มีโอกาสเกิดได้น้อยมาก) ทำให้ในสภาพปกติแล้วผู้สังเกตแทบไม่เห็นการสะท้อนเลย
- การสะท้อนแบบย้อนกลับ (retroreflection) เป็นการสะท้อนกลับไปยังแหล่งกำเนิดแสง โดยการออกแบบให้วัสดุสะท้อนแสงมีโครงสร้างพิเศษที่จะสะท้อนแสงกลับอย่างรุนแรงไปในทิศทางของแสงที่ตกกระทบตัวมันเสมอ หากผู้สังเกตและแหล่งกำเนิดแสงอยู่ใกล้กัน (เช่น ผู้ขับขี่รถยนต์ที่อยู่ใกล้ในแนวเดียวกันกับหลอดไฟหน้ารถในขณะขับขี่) จะทำให้เห็นการสะท้อนได้ชัดเจน
