เมื่อเราต้องการนำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปติดตั้งใช้งานในบริเวณต่างๆ เรามักต้องนำพรรคพวกของมันใส่กล่อง ตู้ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติกหรือโลหะเสียก่อน แล้วจึงนำไปติดตั้งที่บริเวณทำงานจริงๆ ได้ ตู้ที่ไม่ว่าทำจากวัสดุใดมีหน้าที่หลักเหมือนๆ กันคือปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่รอดปลอดภัย โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย ตู้ในแบบต่างๆ จะมีความสามารถในการป้องกันสิ่งอันไม่พึงประสงค์จากสภาพแวดล้อมหลักๆ คือฝุ่นและน้ำ ส่วนจะป้องกันได้ดีเพียงใดจะมีการจัดระดับความสามารถของกล่องหรือตู้ที่จะป้องกันฝุ่นและน้ำเป็นมาตรฐานเอาไว้เรียกว่ามาตรฐาน IP (Ingress Protection Standard) ให้ผู้ใช้งานได้เลือกได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
การเลือกระดับการป้องกัน (IP) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การจัดอันดับ IP กำหนดโดยมาตรฐานสากล IEC 60529 ระบุระดับการป้องกันที่กรอบหรือภาชนะนั้นมีต่อการเข้าของฝุ่นและน้ำ การเข้าใจและเลือกค่าการป้องกัน IP ที่เหมาะสมสามารถมีส่วนมากต่อความทนทานของตู้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่อยู่ในตู้ไฟฟ้านั้นด้วย
IP Ratings คืออะไร
การจัดอันดับ IP จะถูกแสดงเป็น "IP" ตามด้วยตัวเลขสองหลัก หลักแรกแสดงถึงการป้องกันจากวัตถุแข็ง (เช่น ฝุ่น) ในขณะที่หลักที่สองแสดงถึงการป้องกันจากของเหลว ตัวอย่างเช่น การมีระดับ IP54 หมายความว่าตู้เก็บรักษามีการป้องกันจากการเข้าของฝุ่นแต่ในระดับจำกัดและสามารถป้องกันน้ำจากการฉีดล้างจากทุกทิศทางได้
ทำไมการจัดอันดับ IP ที่ถูกต้องจึงสำคัญ
สำหรับตู้ไฟฟ้าและที่อยู่อาศัย การเลือกระดับ IP ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดล้อมที่อาจทำให้เกิดความล้มเหลวของอุปกรณ์หรือปัญหาด้านความปลอดภัยได้ การมีระดับ IP ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้อุปกรณ์เสี่ยงต่อฝุ่น น้ำ หรือสารปนเปื้อนอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การหยุดทำงาน การซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือเกิดอันตรายเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยตามมาได้
การเลือกระดับการป้องกัน IP ที่เหมาะสม
1. สภาพแวดล้อมในร่ม:
สำหรับการใช้งานในร่มที่มีการสัมผัสกับฝุ่นและน้ำต่ำ อาจเลือกการป้องกันระดับ IP44 ก็เพียงพอแล้ว ระดับการป้องกันนี้ให้การป้องกันต่อวัตถุที่เป็นของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 มิลลิเมตรและการกระเซ็นของน้ำจากทุกทิศทาง สำหรับพื้นที่ที่มีการสัมผัสน้ำเป็นครั้งคราว เช่น ห้องครัวหรือห้องปฏิบัติการ IP54 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากให้การป้องกันจากฝุ่นและการพ่นล้างด้วยน้ำ
2. สภาพแวดล้อมกลางแจ้งโดนลมแดดและฝน:
ในสถานที่กลางแจ้งหรือพื้นที่ที่เผชิญกับสภาพที่รุนแรง จะต้องมีระดับ IP ที่สูงขึ้นเช่นระดับ IP65 ซึ่งจะป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์และป้องกันน้ำที่มีแรงดันในทุกทิศทาง สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีแนวโน้มที่จะสัมผัสน้ำมากจริงๆ หรืออาจจมน้ำชั่วคราว ควรพิจารณาใช้ IP67 ซึ่งป้องกันฝุ่นและการจมน้ำได้ถึง 1 เมตร
3. สภาพแวดล้อมในอุตสาหกรรม:
ในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมที่อุปกรณ์อาจถูกสัมผัสกับฝุ่น, สารเคมี, หรือการฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง การป้องกันระดับ IP66 หรือ IP67 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือป้องกันการเข้าของฝุ่นได้แบบมิดชิดและทนการฉีดของน้ำแรงดันสูงหรือการจมน้ำชั่วคราว ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ภายในจะอยู่รอดปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าโหดร้ายเอาเรื่อง
โดยสรุปก็คือ การเลือกระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP rating) ที่เหมาะสมสำหรับตู้ไฟฟ้าของคุณเป็นสิ่งสำคัญในความปลอดภัยและการทำงานของอุปกรณ์ภายในตู้ เป็นการลงทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูงและรักษาประสิทธิภาพในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้ ซึ่งบริษัท ซายน์ ซัพพลายเออร์ จำกัด ยังผลิตและจำหน่ายตู้ไฟฟ้าพร้อมเพลทไดอาแกรม แผ่นกราฟฟิก (Graphic Annunciator Plate) ให้ลูกค้าได้อีกด้วย ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อเราได้นะคะ