มีวัสดุจำนวนมากที่สามารถนำมาใช้ทำป้ายได้ ตั้งแต่ ไม้ โลหะ ไปจนกระทั่งพลาสติกชนิดต่างๆ พลาสติกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในการนำมาทำป้ายก็คืออะคริลิค (acrylic) ซึ่งถือว่าเป็น วัสดุที่เป็นที่นิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งก็ว่าได้โดยทั่วไป พลาสติกอะคริลิคจะหมายถึงสายพันธุ์ของพลาสติกที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นที่มีอนุพันธ์ของกรดอะคริลิคอย่างน้อยหนึ่งชนิดขึ้นไป พลาสติกแข็งส่วนมากแล้วจะเป็นพลาสติกแบบเทอร์โมเซ็ท (thermoset) คือจะไม่สามารถหลอมด้วยความร้อนแล้วปล่อยให้เย็นตัวลงซ้ำๆ ได้ (ถ้าโดนความร้อนมากๆ จะเสียหายถาวรเลย) อะคริลิคของเราก็ถือว่าเป็นพลาสติกแข็งชนิดหนึ่งเช่นกัน วัตถุดิบต้นทางจริงๆ ที่นำมาผลิตเป็นอะคริลิคก็คือน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ พลาสติกอะคริลิคที่เป็นที่รู้จักกันดีโดยทั่วไปจะเป็นโพลีเมธิล เมธาอะครีเลท (polymethyl methacrylate หรือ PMMA) และมีชื่อทางการค้าต่างๆ เช่น Plexiglas, Lucite, Perspex เป็นต้น
ถ้าเปรียบเทียบกับสนุกอื่นเช่นแก้วหรือกระจกแล้ว อะคริลิคมีน้ำหนักน้อยกว่าหลายเท่าตัว ในขณะที่อะคริลิคอาจแตกหักได้เช่นเดียวกับแก้วแต่ก็จะไม่แตกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบาดร่างกายทำให้เกิดการบาดเจ็บ แต่อะคริลิคก็มีพื้นผิวที่อ่อนกว่าแก้วหรือกระจกทำให้เกิดรอยได้ง่ายกว่า นอกจากนั้น หลังจากการใช้งานมายาวนานก็อาจจะเปลี่ยนสีมีสีอมเหลืองและเสียความแข็งแรงไปบ้าง
ถ้าจะหลีกเลี่ยงการใช้แก้วหรือกระจกแล้วต้องพูดได้ว่าพลาสติกอะคริลิคเป็นสิ่งทดแทนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งเนื่องจากมีข้อดีคือ
- ทนทานต่อการเสื่อมสภาพ
- ทนทานต่อรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต
- มีความหนามากๆ ให้เลือกใช้
- น้ำหนักเบา
- ทนทานไม่แตกหัก
- เมื่อแตกหักขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่อันตราย
- โปร่งแสง
- มีสีให้เลือกมาก
- ทำงานด้วยได้ง่าย เช่น ดัด เจาะ กัดผิวด้วยเลเซอร์ กัดผิวด้วยการเจียระไน เป็นต้น
- และอีกมากมาย
- ด้วยความที่มีผิวอ่อนกว่าแก้วหรือกระจกทำให้เป็นรอยได้ง่ายกว่า
- เปื้อนน้ำมันและจารบี หรือสารเคมีอื่นๆ ได้ง่ายกว่าแก้วและกระจก